สนับสนุนเว็บ

สนับสนุนเว็บ

วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557

เรื่อง ไอลุงหื่นเป็นแค่คนขับรถเสือกปล้ำหีลูกคุณหนูเวรกรรมจริงๆ (ตอนที่1)

เรื่อง ก็มีอยู่ว่า กระผมทำงานเป็นคนรถอยู่บ้านแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิทซอย 3 กระผมอายุประมาณ 57 ปีมีเมียแล้ว แต่เมียสุขภาพไม่ค่อยดี จึงทำให้กระผมห่างเหินกับเรื่องนี้มานาน แต่กระผมเป็นคนที่มีความต้องการทางเพศสูงมาก ในบ้านของคุณท่าน กระผมพักอยู่ในเรือนเล็กหลังบ้าน ติดกับสวนหลังห้องครัว บ้านหลังนี้มีอยู่กัน 6 คน มีคุณท่านกับคุณ ผู้หญิง และลูกสาว 1 คน และน้องผู้ชายคนเล็กอีกหนึ่งคน ยังเรียนอยู่ชั้นประถม ลูกสาวของคุณท่านนั้นกระผมเห็นเธอมา ตั้งแต่เด็ก เธอชื่อคุณหนูแคท เป็นลูกสาวคนเดียวสุดหวงของคุณท่านและคุณผู้หญิง เธอถูกส่งไปเรียนที่ประเทศอังกฤษนาน หลายปี แล้ววันหนึ่งคุณท่านบอกกับกระผมว่า คุณหนูแคทจะกลับ และจะมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยที่ กรุงเทพฯ และกระผม ก็ต้องไปรับเธอที่สนามบิน พร้อมกับคุณท่านและคุณผู้หญิง เมื่อกระผมเห็นคุณหนูครั้งแรก กระผมแทบไม่เชื่อสายตาของ ตัวเองเลยว่า คุณหนูแคทที่กระผมเคยเห็นเมื่อครั้งที่เธอยังเด็ก กับคุณหนูแคทที่กระผมเจอในวันนี้ เธอได้เปลี่ยนไปมาก เธออายุ 17 ปี เธอสูงประมาณ 170 ซม. ผิวขาวอมชมพู รูปร่างอวบอัด ผมยาวประบ่า เธอสวมเสื้อยืดบางเบาแขนกุด รัดรึงทรวงอกอันอวบอูม แขนเสื้อเว้าลึกมากจนมองเห็นเนินอกอวบขาวผุดผ่อง ล้นทะลักออกข้างเสื้อยกทรงสีดำลายลูกไม้ ตัวจิ๋ว ชายเสื้อยืดเอวลอยจนมองเห็นสะดือกลมโบ๋ และหน้าท้องอันขาวเนียน วันนั้นกระผมขับรถอย่างแทบไม่มีสติ และเมื่อกลับถึงบ้านกระผมแทบไม่เป็นอันกินอันนอน ตกกลางคืนกระผมก็อดคิดถึงเรือนร่างอันเย้ายวนของคุณหนูแคทไม่ได้ จนผมต้องชักรอกตัวเองไปหลายครั้ง นับตั้งแต่นั้นมา กระผมก็มีหน้าที่ขับรถรับส่งคุณหนูที่มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง แต่ตัว เธอมองผมเป็นขี้ข้ากับเจ้านายอยู่เสมอ ทั้งๆ ที่ตอนที่เธอยังเด็ก เธอให้ความเคารพผมอย่างผู้ใหญ่คนหนึ่ง และแล้ววันที่ กระผมไม่คาดคิดคาดฝันก็เกิดขึ้น วันนั้นเป็นวันปีใหม่เมื่อปี 43 คุณท่านกับคุณผู้หญิงไปพักผ่อนที่ต่างประเทศ เป็นเวลา ประมาณ 2 อาทิตย์ ส่วนเช้าวันนั้นตัวคุณหนูฝากบอกเมียผม ว่าจะไปงานกับเพื่อนที่มหาวิทยาลัยช่วงตอนเย็น ส่วนตัวผม เองก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งตกเย็นหลังจากผมได้ล้างรถและกินข้าวกับเมีย สักพักคุณหนูก็ได้เดินลงมาจากเรือนหลังใหญ่ ผมแทบไม่เชื่อสายตายตัวเอง คุณหนูได้แต่งตัวกระโปรงสั้นสีขาว แล้วใส่เสื้อยืดบางจนรัดหน้าอกหน้าใจออกมาให้เห็น ใส่รองเท้าส้นสูง แล้วถือกระเป๋าราคาแพงตามสมัยนิยม จนผมมองอย่างอดสายตาไม่ได้ จนคุณหนูหันมามองอย่างไม่พอใจ หลังจากที่ผมไปส่งคุณหนูที่มหาวิทยาลัยตั้งแต่ตอนประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆ ผมได้นอนรอในรถถึงประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ คุณหนูได้เดินมาที่รถพร้อมกับเพื่อนๆ อีก 2 คน แล้วบอกผมให้ขับไปผับแถวสุขุมวิท ผมเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเป็นหน้าที่ ของผมอยู่แล้ว จนผมได้ไปส่งคุณหนูและได้นั่งรอในรถอีกถึงประมาณตี 1 กว่าๆ เพื่อนๆ ของคุณหนูได้เดินมาส่งคุณหนู ในสภาพที่เมามายคุมสติตัวเองไม่อยู่ ผมก็รีบเปิดประตูหลังช่วยเพื่อนคุณหนูประคองคุณหนูขึ้นรถ เป็นครั้งแรกของกระผม ที่ได้สัมผัสตัวคุณหนูแคท ส่วนตัวผมได้ถามเพื่อนคุณหนูว่าจะให้ไปส่งไหม พวกเพื่อนคุณหนูบอกผมว่าไม่ต้อง เพราะเธอมี เพื่อนไปส่งแล้ว ดังนั้นผมจึงได้แยกตัวแล้วขับรถออกมาจากแถวนั้น สักพักได้แยกเข้าซอยทางลัดของสุขุมวิท ผมขับรถได้ ประมาณ 10 นาที ผมได้มองกระจกหลัง พระเจ้าช่วยด้วยเถิด ผมเห็นในสิ่งที่ผู้ชายทั้งหลายอยากเห็น ผมเห็นคุณหนูนอน ขวางตอนที่นั่งหลัง ขาหนึ่งข้างยกขึ้นมาตั้งชัน ทำให้เห็นโคนขาลึกขาว แล้วเสื้อที่คุณหนูใส่ได้หดร่นเห็นสะดือขาว ผมกวาดสายตาไปทั้งเรือนร่างของคุณหนู อวัยวะเพศที่ไม่ได้ใช้งานมานาน กลับแข็งตัวอย่างที่ไม่เคยเป็น ทำให้กางเกงของ ผมตุงและแฉะ ทันใดนั้นเองในหัวสมองของผมก็ได้มีแผนการแล่นผ่านมา ผมจึงตัดสินใจวกรถกลับไปยังซอยซึ่งมีโรงแรม ม่านรูดอยู่ ผมได้ขับรถเข้าไปอย่างคุมสติตัวเองไม่ถูก ผมได้จ่ายสตางค์กับเด็กรูดม่านเสร็จ ผมก็เดินเข้ามาในรถแล้วมองเห็น ร่างคุณหนูนั้นขาวไม่มีที่ติ ผมได้เดินลงไปจากรถอีกทีนึง แล้วมองซ้ายมองขวา ผมได้เปิดประตูหลังด้านที่คุณหนูหันขาไป พอผมเปิดประตูผมถึงกับตะลึง ท่อนในกางเกงของผมมันแข็งจนปวดไปหมด ก็เพราะว่ากางเกงในสีขาวจิ๋ว ที่ปิดหน้าเนิน อวบโหนกนูนมากของคุณหนูคนสวย ขอบกางเกงในมันปลิ้นรวมตัวกันกลางร่องแยก เปิดให้เห็นแคมหนาสองข้างอวบอูม เป็นสันหนาขาวเกลี้ยงเกลามีขนหมอย บาง ชัดเจนถนัดสายตามาก ขาอ่อนอวบอัดสุดโคนขา มันช่างขาวเรียวยาวผุดผ่อง เนียนลูกตา ชะเวิบชะวาบสะอาดตายั่วกิเลศ มันมากสุดที่จะบรรยาย เสือล้างสังเวียนมานานถึงกับสูดปากซี้ดด..ด้วยความ เสี้ยน ผมได้ถือวิสาสะวางมือไว้ที่ขาอ่อน แล้วเขย่าเบาๆ แล้วพูดว่า คุณหนูครับถึงบ้านแล้ว แต่เธอเมามากแล้วบอกผมว่าลุก ไม่ไหว ผมเลยหิ้วปีกเธอเข้าไปในห้อง และเธอก็เมามากจนไม่ได้สติว่าอยู่ที่ไหน
อนิจจา

ไม่มีความคิดเห็น: